เชื่อว่าแฟนๆ Game of Thrones ทั้งหลายคงได้รับชมตอนแรกของการกลับมาของซีรีส์ที่เฝ้ารอกันแล้ว สำหรับใน EP1 นั้นเนื้อจะเป็นการปูทางของเรื่องซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น วันนี้เราจะชวนคุณมาดูปมต่างๆที่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญในตอนต่อๆไปกัน
1.ชาวเหนือผู้ไม่ปลื้มกองทัพต่างแดน
เริ่มแรกเปิดเรื่องก็มีประเด็นเลย ในฉากแรกที่เป็นการเดินทางมาถึง Winterfell ของกองทัพแม่มังกร เดเนอริส ซึ่งชาวเหนือที่มายืนต้อนรับนั้นดูจะมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะพวกเขาไม่ค่อยไว้ใจคนต่างแดนอยู่แล้ว และยิ่งเจอสัตว์ที่เคยคิดว่าไม่มีจริงอย่างมังกรยิ่งกลายเป็นความตื่นกลัวไปซะอีก
ไม่ใช่แค่ชาวเมืองเท่านั้น เหล่าขุนนางก็ดูมีท่าทีที่ไม่พอใจเหมือนกัน โดยเฉพาะการที่จอน ไปยอมสวามิภักดิ์ ยกให้เดเนอริสเป็นราชีนี ทั้งที่พวกเขาเชื่อใจยกให้จอนเป็นกษัตริย์แห่งแดนเหนือ แม้จอนจะให้เหตุผลเรื่องการปกป้องแดนเหนือจากไวท์วอล์คเกอร์สำคัญว่าต่ำแหน่งกษัตริย์ แต่ต้องไม่ลืมว่านอกจากจอนแล้วคนอื่นๆ ยังไม่เคยเจอกับกองทัพไวท์วอล์คเกอร์เลย พวกเขาย่อมจินตนาการไม่ออกถึงความโหดร้าย และความจำเป็นในการหาพันธมิตรจนต้องยอมละทิ้งศักดิ์ศรีเท่ากับจอน
นี่คงเป็นรอยร้าวเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นในกองทัพชาวเหนือ จนถึงกับมีลอร์ดบางคนที่เลือกจากปักหลักอยู่ที่เมืองของตัวเองแทนที่จะมาอยู่รวมกันที่ Winterfell หรือแม้แต่คนในครอบครัวอย่างซานซ่าและอาร์ย่าเอง ก็ดูจะไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินของจอนซะเท่าไหร่ และมันก็น่าเป็นห่วงว่ารอยร้าวนี้จะกลายเป็นความแตกหักจนทำให้ Winterfell ล่มสลายหรือไม่
2.ความรู้สึกของแซมและจอน
EP นี้ชายผู้ที่น่าจะทำใจยากที่สุดคงหนีไม่พ้น แซม ที่ตอนแรกเหมือนจะดีใจเพราะกำลังจะได้รับการตบรางวัลจากเดเนอริส ในฐานะที่ช่วยเซอร์จอร่าห์จากโรคเกล็ดเทาเอาไว้ แต่กลายเป็นว่าต้องมารู้ความจริงว่า เดเนอริสได้ประหารพ่อและน้องชายตัวเองในฐานะเชลยที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าแซมจะไม่ค่อยถูกกับครอบครัวตัวเอง แต่การได้มารู้เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่จะทำใจได้ง่ายๆ (นี่ขนาดไม่ได้บอกวิธีประหารนะ)
หลังจากนั้นแซมไปพบจอนบอกความจริงกับจอนเกี่ยวกับชาติกำเนิด ตามคำแนะนำของแบรน ซึ่งนอกจากบอกความจริงว่าจอน เป็นผู้มีสิทธิ์ครองบัลลังก์เหล็กในฐานะบุตรของเรการ์ ทาร์แกเรียนแล้ว แซมยังยกย่องว่าจอนนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่าเดเนอริส ไม่ว่าจะเป็นทางลำดับสายเลือด หรือแม้แต่การกระทำ และยังยิงคำถามตรงๆอย่าง “จอนยอมที่จะสลมงกุฎเพื่อประชาชนถ้าเป็น เดเนอริสจะยอมหรอ ?”
จุดนี้พอจะรู้ได้ว่าแซมนั้นอยู่ข้างจอนมากกว่าเดเนอริส ส่วนตัวจอนเองที่ตอนแรกไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งกษัตริย์แดนเหนือไปกว่าการเตรียมรับมือกับไวท์วอล์คเกอร์ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองมีสิทธิในการเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของ 7 อาณาจักรแล้ว จะทำให้เขารู็สึกหวั่นไหวหรือไม่เพราะหากได้เป็นกษัตริย์จริงๆ ก็สามารถระดมกำลังเพื่อต่อกรกับไวท์วอล์คเกอร์ได้โดยไม่ต้องลำบากไปขอร้องใครและ ก็จะได้ความเชื่อใจจากชาวเหนือคืนอีกด้วย
3.การพบกันอีกครั้งของเจมี่และแบรน
ฉากสุดท้ายของตอนนี้ที่ดูจะสร้างความค้างคาใจให้กับหลายคนเลยทีเดียว กับการโคจรมาพบกันอีกครั้งของคู่กรณีเจมี่และแบรน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นต้องย้อนไปตอนแรกของซีรีส์นี้เลย หลังจากที่แบรนปีนขึ้นหอคอยด้วยความซนแต่ดันไปพบกับเจมี่ที่กำลังเล่นชู้กับพี่สาวตัวเองควีนเซอร์ซี่อยู่ จึงทำให้เจมี่ผลักแบรนตกลงมาจากหอคอยหวังจะปิดปาก โชคดีที่แบรนยังไม่ถึงกับความตาย แต่ก็ต้องสูญเสียการเดินไปตลอดชีวิต
การเจอกันของทั้งคู่นั้น เจมี่ดูจะแปลกใจและตกใจเพราะคงไม่คิดว่าแบรนจะยังมีชีวิตอยู่ และสิ่งที่เขาได้ทำไว้คงไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป และที่สำคัญเขาไม่รู้ด้วยว่าแบรนไม่ใช่เด็กธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ส่วนทางด้านแบรนที่ตอนนี้หยั่งรู้ไปหมดทุกอย่าง แม้แต่การมาถึงของเจมมี่ (แต่ทำไมต้องมานั่งรอข้ามคืนด้วย) ก็น่าจะรู้ว่าที่ผ่านมาเจมี่ได้เจอกับอะไรมาบ้าง แต่เราก็ไม่รู้จุดประสงค์ของแบรนว่ายังต้องการเรียกร้องความยุติธรรมของจากเจมมี่หรือว่าต้องการอะไรกันแน่ ถึงต้องมาดักรอเจอขนาดนี้
คู่กรณีของเจมมี่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะฉายาที่ติดตัวเขามาตลอดชีวิต Kingslayer มันคือวีรกรรมที่เขาได้ทรยศสังหารราชา Mad King ซึ่งก็คือพ่อของเดเนอริส และนั่นเป็นเหตุให้ชีวิตของเธอต้องร่อนเร่จากบ้านเกิดไปไกลตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
การมาถึง Winterfell ของเจมมี่ครั้งนี้ถึงแม้ะมาด้วยเจตนาดี แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับโจรที่อยู่ดีๆก็เดินเข้าไปในสถานีตำรวจ ซึ่งชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรก็คงต้องรอลุ้นกันใน EP.2
