Review: Where we belong “ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า”

Where we belong เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “คงเดช จาตุรันต์รัศมี” ที่ได้นักแสดงนำทั้งสองคนของเรื่องมาจาก BNK48 กลุ่มศิลปินไอดอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในรอบปีนี้อย่าง เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ “เจนนิษฐ์ BNK48” และ แพรวา สุธรรมพงษ์ หรือ “มิวสิค BNK48” เนื้อเรื่องหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของ “ซู” (เจนนิษฐ์) ที่กำลังจะไปเรียนต่อที่ฟินแลนด์ประเทศที่เธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย กับ “เบล” (มิวสิค) เพื่อนสนิทของซูที่ทำให้ซูทุกอย่างจนนึกว่าเป็น “เบ๊”

อย่างแรกเลยผมเข้ามาดูเรื่องนี้โดยความรู้สึกที่ว่า เด็กสาวที่ผมเห็นในโปสเตอร์โปรโมทหนังหรือคลิป Teaser ต่าง ๆ ของหนังที่เห็นคือ เจนนิษฐ์และมิวสิค BNK48 ไม่ใช่ตัวละครในหนังที่ชื่อซูกับเบล ผมมีความรู้สึกอย่างนี้ตั้งแต่เห็นหน้าน้องในฉากแรกว่านี่คือเจนนิษฐ์ BNK48 ไม่ใช่ซู

แต่หลังจากผ่านไปได้ซักสิบห้านาทีความคิดผมก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปนี่คือซูและเบลตัวละครของหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่เจนนิษฐ์และมิวสิค BNK48 ที่เราเคยรู้จัก โดยเฉพาะตอนกลาง ๆ ค่อยไปทางท้าย ๆ ของเรื่องที่เธอทั้งสองคนทำให้ผมเชื่อได้โดยสนิทใจว่านี่คือ “ซูและเบล”

ที่มา FB:Where We Belong

สิ่งแรกที่ต้องชื่นชมเป็นอย่างแรกเลยคือการแสดงของ “เจนนิษฐ์” ที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องไว้ได้ ทั้งสีหน้า แววตา และท่าทางการแสดง เธอสามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะสมบูรณ์ได้สำหรับคนที่เล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก (ถ้าไม่นับเรื่องที่น้องเคยแสดงตอนสมัยยังเด็ก) ส่วนตัวของเบลหรือมิวสิคนั้นเธอก็ทำหน้าที่ของเธอได้อย่างดีไม่แพ้กันแต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเบลออกมาในฉากน้อยกว่าซูเยอะ เพราะในหนังเรื่องนี้เรื่องราวส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของซู และผมก็เชื่ออีกอย่างว่าถ้าสลับบทกันมิวสิคเองก็สามารถแบกหนังเรื่องนี้ได้เช่นกัน

ต่อมาที่ต้องชมคือผู้กำกับที่สามารถกำกับความเป็นไปของหนังเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้ตัวนักแสดงเลย วิธีการใช้ Long Take หลาย ๆ ครั้งในฉากสำคัญ ๆ บทสนทนาของตัวละครต่าง ๆ ที่เรียบง่ายแต่มันมีพลังมากทำให้เราค่อย ๆ เข้าถึงตัวละครและอินไปกับมันได้อย่างไม่ยากนัก ต้องบอกว่าคุณคงเดชทำมันได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว

ที่มา FB:Where We Belong

ข้อเสียอย่างเดียวของเรื่องนี้นะครับ (หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้) หนังเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องแบบเอื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่มีเร่งรีบอะไรทั้งนั้นต้องยอมรับว่ามันทำให้ช่วงง่วงไม่น้อยยิ่งถ้าไม่อิน ดูๆ ไปนี่อาจจะหลับคาโรงหนังไปได้เลย ส่วนของเสียอีกอย่างหนึ่ง (หรืออาจจะไม่ใช่ข้อเสียก็ได้) คือหนังทำให้เราต้องคิดตามตลอดเวลาซึ่งก็เป็นข้อดีที่จะแก้ข้อเสียที่มันจะทำให้ง่วง (ฮา) ต้องยอมรับว่าการกระทำของตัวละครในเรื่องนี้มันสามารถถูกตีความได้หลายแบบและทำให้เราคิดตามไปเรื่อย ๆ ว่าจริง ๆ แล้วตัวละครต้องการอะไรและหนังจะสื่อถึงอะไร

ซึ่งการที่หนังมันตีความได้หลากหลายและทำให้คิดตามเรื่อย ๆ นั้น ทำให้เกิดประเด็นอันหลากหลายในหลาย ๆ ฉากจนมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขว้างสำหรับคนที่ไปดูมาแล้ว จนหลาย ๆ คนถึงกับบ่นว่าสำหรับเรื่องนี้อาจจะดูรอบเดียวไม่พอเพราะมีอะไรหลายอย่างในเรื่องนี้เยอะเหลือเกินจนต้องไปดูซ้ำหลาย ๆ รอบ

สุดท้ายแล้วสำหรับเรื่องนี้แค่เข้าไปดูการแสดงของเจนนิษฐ์คนเดียวก็อยากจะบอกว่าเกินคุ้มแล้วครับ เพราะน้องสามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งเธอสามารถเข้าชิงรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมได้เลยทีเดียว ยังไม่รวมบทพูดและการกระทำของตัวละครที่สามารถตีความได้อีกมากมาย ก็สามารถพูดได้ว่า Where we belong เป็นหนังไทยที่ดีและไม่ควรพลาดอีกเรื่องหนึ่งของปีนี้ครับ

ที่มา FB:Where We Belong

ป.ล. สำหรับเรื่องนี้จะมีฉายแค่ในเครือ SF Cinema เท่านั้นนะครับ

ป.ล.2 หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังหญิงรักหญิงหรืออะไรทำนองนั้นนะครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีฉากอะไรแบบนั้นแน่นอน

ปิดท้ายด้วย MV ของเพลงที่ร้องโดย Music BNK48 และ Jennis BNK48 ครับ

Loading