
ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ของชาว PlayStation เลยทีเดียว หลังจากที่ Sony ได้ประกาศเปลี่ยนรูปแบบบริการครั้งใหญ่ของ PlayStation Plus เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์การเล่นเกมในยุคใหม่ ที่เรียกว่า Subscription Services หรือก็คือการจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน/รายปี เพื่อเล่นเกมที่อยู่ในลิสต์ แทนการซื้อเกมถาวร ซึ่งคู่แข่งอย่าง Microsoft ก็ได้ประสบความสำเร็จไปแล้วกับบริการ Xbox/PC Game Pass คราวนี้ก็ต้องมาดูกันว่าบริการ Playstation Plus แบบใหม่ ของ Sony นั้น จะมีทีเด็ดอะไรให้แฟนๆได้ใช้บริการกันบ้าง ซึ่งพวกเรา Dude it’s Time ก็ได้สรุปข้อมูลรายละเอียดมาให้แล้ว ถ้าพร้อมมาตามมากันเลย
PlayStaion Plus คืออะไร?
ข้อนี้เผื่อไว้สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่โลกของ PlayStation โดย PlayStaion Plus ก็คือบริการเสริมที่จะเก็บค่าบริการเป็นรายเดือน/ปี เพื่อให้ผู้เล่นที่ได้รับสิทธิ์พิเศษ ดังนี้
- สามารถเล่นเกมในโหมด Online ได้ ทั้งนี้ บางเกมเกมที่เป็น Online Service อยู่แล้วเช่น Fortnite ก็สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องมี PS Plus
- บริการ Cloud storage สำหรับ Back Up เซฟเกม
- ส่วนลดพิเศษสำหรับสามาชิก PS Plus
- เกมฟรี 2-4 เกม/เดือน โดยจะมีการกำหนดเวลาให้กดรับเกมในเดือนเท่านั้น ถ้าเลยกำหนดแล้วจะไม่สามารถกดรับได้อีก แต่หากกดรับมาแล้วสามารถโหลดมาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ จนกว่า PS Plus จะหมดอายุ
นอกจากนี้ผู้เล่นที่มีเครื่อง Playstation 5 ยังได้รับสิทธิ์ในการเล่นเกม PlayStation Plus Collection ซึ่งมีเกมจากเครื่อง PS4 ในเล่นถึง 20 เกมด้วย
ค่าบริการ PlayStaion Plus (แบบเดิม)
- 1 เดือน 210 บาท
- 3 เดือน 490 บาท
- 1 ปี 1,190 บาท
PlayStaion Plus แบบใหม่
เริ่มใช้งานโซนเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) วันที่ 23 พฤษภาคม 2022 [เป็นภูมิภาคแรกในโลก]
ทั้งนี้ รูปแบบการให้บริการจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
PLAYSTATION PLUS ESSENTIAL
ค่าบริการ 1 เดือน 210 บาท/ 3 เดือน 490 บาท/ 1 ปี 1,190 บาท
สิทธิพิเศษสำหรับ ESSENTIAL
- เกมฟรีเดือนละ 2 เกม
- ส่วนลดพิเศษสำหรับสามาชิก PS Plus
- Cloud storage สำหรับ Back Up เซฟเกม
- การเล่นเกมในโหมด Online
ทั้งนี้ PLAYSTATION PLUS ESSENTIAL ก็คือ Playstaion Plus แบบดั้งเดิม ที่เพิ่มเติมก็คือการระบุชัดเจนว่าจะมีเกมให้เล่นฟรีเดือนละ 2 เกม จากแบบเดิมจะมีให้เล่นเดือนละ 2-4 เกม
PLAYSTATION PLUS EXTRA
ค่าบริการ 1 เดือน 320 บาท/ 3 เดือน 810 บาท/ 1 ปี 2,000 บาท
สิทธิพิเศษสำหรับ EXTRA
จะได้รับสิทธิ์ทุกอย่างเหมือน ESSENTIAL และจะสามารถเล่นเกม PS4 และ PS5 ที่มีใน Catalog กว่า 400 เกม โดยจะมีทั้งเกมของ PlayStation Studios และค่ายเกม third-party ซึ่งตอนนี้มีการเปิดเผยรายชื่อเกมออกมาบางส่วน ได้แก่
- Death Stranding
- God of War
- Marvel’s Spider-Man
- Marvel’s Spider-Man: Miles Morales
- Mortal Kombat 11
- Returnal
ทั้งนี้ ทาง Sony ได้ยืนยันแล้วว่าจะมีการเพิ่มเกมในลิตส์อีกเรื่อยๆ ในภายหลัง แต่จะไม่มีเกม Day One (เกมใหม่ที่เพิ่งว่างจำหน่ายวันแรก) ในลิสต์อย่างแน่นอน
PLAYSTATION PLUS DELUXE
ค่าบริการ 1 เดือน 370 บาท/ 3 เดือน 930 บาท/ 1 ปี 2,300 บาท
สิทธิพิเศษของ Deluxe
- ได้รับสิทธิ์ทุกอย่างของ EXTRA
- สามารถเล่นเกม Classic ของเครื่อง Playstation, PS2 และ PSP ได้กว่าร้อยเกม
- สิทธิ์ในการทดลองเกมออกใหม่แบบจำกัดเวลา *มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า สามารถทดลองเล่นเกมออกใหม่ที่มีราคา $34 (ประมาณ 1,200 บาท) ขึ้นไป ได้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
อนึ่ง PLAYSTATION PLUS DELUXE ถือเป็นบริการขั้นสูงสุดของโซนประเทศไทย แต่จริงๆแล้วยังมีอีกขั้นก็คือ PLAYSTATION PLUS PREMIUM ค่าบริการอยู่ที่ $119.99/ปี (ประมาณ 4,000 บาท++) ซึ่งจะเพิ่มบริการ cloud streaming สำหรับเล่นเกมของ PS3 ด้วย แต่เนื่องจากภูมิภาคของเรายังไม่มีบริการดังกล่าว ทาง Sony จึงเพิ่มระดับ Deluxe ที่ลดค่าบริการลงมาทดแทน
สรุปความคุ้มค่าของ PlayStation Plus แบบใหม่
ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับ Playstation Plus แบบใหม่ ที่มีระดับบริการมาให้ผู้เล่นเลือก ซึ่งคงต้องดูที่แนวการเล่นเกมของแต่ละคน หากเป็นคนที่ไม่ได้เล่นเกมหลากหลายเน้นเล่นออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ PS Plus ESSENTIAL ก็ยังคงตอบโจทย์เหมือนเดิมไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่หากใครชอบแบบมีเกมให้เลือกเล่นเยอะๆ PS Plus EXTRA ที่มีเกมให้เล่นกว่า 400 เกมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ยังไม่มีเกมเยอะก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ
แต่โดยส่วนตัวสำหรับ PS Plus Deluxe อาจจะต้องรอดูข้อมูลอีกหน่อยว่าเกม Classic ในลิสต์จะมีเกมอะไรบ้าง อีกทั้งเรื่องประสบการณ์ในการเอาเกมเหล่านั้นมาเล่นบนเครื่อง PS4/PS5 จะทำได้ดีแค่ไหน จะมีการอัพสเกลภาพ หรือปรับแต่งคุณภาพให้ดีขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยังต้องรอดูต่อไป ถ้าจะให้ถามตอนนี้ใจผมก็เทไปที่ PS PLUS EXTRA ซะมากกว่า แล้วคุณล่ะครับจะเลือกแบบไหนดี ?